2011-08-21

พระกรุวัดนางตรา นครศรีธรรมราช

พระกรุวัดพระนางตรา พระนาคปรก กรุวัดนางตรา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นับเป็นพระเครื่องยอดนิยมสูงสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช

สำหรับประวัติที่มาของวัดพระนางตรา มีบางแหล่งข้อมูลกล่าวว่า


วัดนางตรา เดิมชื่อว่าวัดพระนางสุพัตราเป็นวัดที่สร้างมานานประมาณ 1,800 ปี โดยตำนานได้กล่าวไว้ว่า พระเจ้าศรีธรรมโศก ได้นำพรสารีริกธาตุของพระพุธเจ้ามา จากชมพูทวีปและได้มาสร้างเจดีย์ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อบรรจุพระ สารีริกธาตุ ข่าวการสร้างเจดีย์ได้แพร่ถึงอาณาจักรศรีวิชัยในเกาะสุมาตรา ซึ่ง มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระสุมาตราทรงเลื่อมใสในพระพุธศาสนามากและ ปรารถนาที่จะได้ร่วมสร้างพระเจดีย์ด้วยจึงได้จัดเรือสำเภา 300 ลำ พร้อม ทรัพย์สมบัติข้าทาสบริวารเดินทางจากเกาะสุมาตราสู่นครศรีธรรมราช

ขณะเดินทาง ใกล้ถึงก็เกิดอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล้ม ประกอบกับการสร้างพระเจดีย์ได้เสร็จเรียบร้อยแล้ว พระนางเห็นว่าชัยภูมิใกล้ๆนั้นเหมาะที่จะสร้างวัด จึงได้สร้าง และตั้งชื่อไว้ว่าวัด พระนางสุพัตรา เรียกกันสั้นๆเหลือเพียง วัดนางตรา จากสิ่งก่อสร้าง ซึ่งปรักหักพังที่หลงเหลือให้เป็นปัจุบัน แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เช่น โบสถ์ พระเจดีย์ จะมีคูน้ำล้อมรอบที่ชาวบ้านเรียกว่า ดอนทำเนียบ

บางแหล่งข้อมูลกล่าวว่า

ตามประวัติศาสตร์เมืองนครศรีธรรมราชกล่าวว่า "วัดนางตรา" นี้ สร้างโดยพระนางเลือดขาว ผู้เป็นบุตรีของคหบดีย่านหมู่บ้านป่อล้อ (ปัจจุบันอยู่ใน ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่) เป็นหญิงที่เพียบพร้อมด้วยลักษณะเบญจกัลยาณี คือ ใบหน้างาม เนื้องาม นมงาม นิ้วงาม และน่องงาม มีอุปนิสัยเยือกเย็น สุขุม มีเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และยังมีจิตใจเป็นกุศล ชอบการทำบุญทำทาน ช่วยเหลือเกื้อกูลบุคคลต่างๆ อยู่เป็นเนืองนิจ ต่อมาได้เป็นพระมเหสีเอกของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เจ้าแห่งราชอาณาจักรตามพรลิงค์ เล่ากันว่าที่มีพระนามว่า "พระนางเลือดขาว" เนื่องด้วยโลหิตที่ไหลจากดัชนีนางของพระนาง เมื่อคราวไปช่วยงานบวชนาคครั้ง ยังไม่ได้เป็นพระมเหสีเอกนั้น แทนที่จะเป็นสีแดงกลับเป็นสีขาวอย่างน่าประหลาด เมื่อทรงเป็นพระแม่เมือง พระมเหสีเอกของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

จนถึงกาลมัชฌิมวัย พระองค์ก็ยังไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาเพื่อสืบสันตติวงศ์ จึงเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลลาออกจากตำแหน่ง และใช้ชีวิตในช่วงปัจฉิมวัย ในการสร้างบุญกุศลอุทิศชีวิตให้พระบวรพุทธศาสนา โดยทำการบูรณปฏิสังขรณ์และสร้างวัดขึ้นมากมายทั่วเขต จ.นครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่จะสร้างทับลงในบริเวณที่เป็นเทวาลัยเก่าของศาสนาพราหมณ์ เพราะในต้นยุคสมัยศรีวิชัย คนพื้นเมืองของอาณาจักรตามพรลิงค์ล้วนนับถือศาสนา พราหมณ์ อาทิ วัดแม่เจ้าอยู่หัว เป็นวัดแรก สร้างที่บ้านเกิดของพระนางใน อ.เชียรใหญ่ วัดเขาพระทอง อ.ชะอวด วัดถ้ำเขาแดง อ.ร่อนพิบูลย์ วัดสระโนราห์ อ.ทุ่งสง ฯลฯ รวมทั้ง "วัดพระนาง" ที่ อ.ท่าศาลา และในทุกๆ วัด ล้วนเคยขุดพบพระพิมพ์ทั้งเนื้อดิน ชิน ทอง เงิน และสัมฤทธิ์ เป็นพระเครื่องและพระบูชามากมาย เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาตามคติความเชื่อ ซึ่งนับเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ของพระนางเลือดขาว

สำหรับชื่อ วัดนางตรา มาจากที่วัดนี้อยู่ใกล้แม่น้ำท่าสูง ในฤดูฝนน้ำจะท่วมบริเวณวัด พระนางจึงสั่งให้สร้างทำนบกั้นน้ำ หรือพนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า วัดพะนังตรา หรือวัดนางตรา สืบมาถึงปัจจุบัน

พระพุทธคุณแห่งพระนางตรา

พระกรุนางตราที่แตกกรุ ออกมา มีพุทธศิลปะแบบศรีวิชัยยุคกลาง มีอายุประมาณปี พ.ศ.1500-1600 สร้างก่อนอาณาจักรละโว้หรือลพบุรี เป็นพระเนื้อดินเผาผสมว่านยา สีออกน้ำตาลแก่ ดำอมเทา หรือเหลืองมันปู ที่เป็นเนื้อชินมีน้อยมาก และมีมากมายหลายพิมพ์ทรง เช่น พิมพ์สามเหลี่ยมปาฏิหาริย์ พิมพ์ซุ้มปรางค์ พิมพ์ยืนประทานพร ฯลฯ แต่ที่เป็น "พิมพ์นิยม" และเป็นพระพิมพ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของภาคใต้ก็คือ พิมพ์นาคปรกใหญ่ เป็นพระทรงสี่เหลี่ยม พระประธานประทับนั่งสมาธิ แสดงปางนาคปรก มีลักษณะพิเศษที่ใต้ฐานนาคจะมีพระองค์เล็กประทับอยู่อีกหนึ่งองค์

พระกรุนางตรา มีพุทธคุณปรากฏด้านเมตตาและแคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศ ที่สำคัญพระเครื่องแตกกรุออกมาจำนวนไม่มากนัก จึงมีสนนราคาเช่าหาค่อนข้างสูงและเป็นที่หวงแหนมาก

อภินิหารของพระนางตราจากคำบอกเล่านั้นมีอยู่ต่างๆ นานา เช่น

เล่ากันว่า ในบริเวณเจดีย์ซึ่งเป็นกรุพระนางตรานั้นมีเจ้าที่คอยรักษาอยู่ โดยจะแสดงตนเป็นงูบองหลา (งูจงอาง) ให้คนที่มาขุดบริเวณเจดีย์และชาวบ้านเหล่า นั้นเห็นอยู่บ่อยๆ เล่ากันว่า ครั้งหนึ่งกองทหารไทย นำปืนใหญ่ไปตั้งวางไว้ในวัดนางตรา เพื่อฝึกซ้อมยิงปืนใหญ่ไปในทะเลอ่าวไทย แต่เมื่อทำการยิงนั้นปรากฏว่ากระสุนด้าน ยิงไม่ออกพยายามยิงอย่างไรก็ไม่เป็นผล ชาวบ้านจึงแนะนำให้นำปืนใหญ่ออกไปตั้งนอกวัด แล้วใช้กระสุนเดิมยิงก็สามารถได้เป็นปกติ

พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีต ผู้บังคับการตำรจภูธรเขต 8 ซึ่งเป็นนายพลตำรวจมือปราบและเป็นที่เกรงกลัวของโจรร้ายในอดีต เป็นผู้มีความรู้ด้านคาถาอาคม มีพระนางตราอยู่ในครอบครองหลายพิมพ์ เช่น พิมพ์นาคปรก พระไถ วงเขนและพิมพ์พระรอดซึ่งเป็นพิมพ์ที่หายาก ท่านขุนพันธ์ฯ เล่าว่าจะแขวนพระนางตราเป็นพระประจำตัว เมื่อออกพื้นที่ปราบปรามโจรผู้ร้าย ทั้งนี้ได้รับประสบการณ์ตราหลายครั้งจนเชื่อว่า เป็นพระที่คุ้มครองให้ปลอดภัยและอยู่ยงคงกระพัน

กรุเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งของภาคใต้คงจะไม่มีพระกรุไหนเกิน นางตรา กับ ท่าเรือ จึงมักมีการเอ่ยชื่อร่วมกันตลอด พระพิมพ์ที่ขุดได้จากวัดนางตราที่นิยมที่สุด ซึ่งเรียกว่า ปกนางตรา และ พระพิมพ์ ผาลไถนางตรา พระ นางตรา นั้นเป็นเครื่องชั้นยอดในนครศรีธรรมราช และเป็นที่ใฝ่ฝันของนัก นิยมพระเครื่อง พ่อค้า ข้าราชการ ทหารตำรวจ และประชาชนโดยทั่วไป เพราะนอก จากจะมีลักษณะงดงาม ตามพุธศิลป์ของฝีมือชั้นสูงแล้วในด้านพุทธคุณก็มีครบครัน เช่น ด้านคงกระพันชาตรีด้านแคล้วคลาด ด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ผู้ที่มีพระ นางตราไว้ครอบครองตามหวงแหน เพราะอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยป้องกัน อุบัติเหตุ ภัยอันตรายถอนพิษงู เสริมสร้างวาสนาบารมีให้ความร่มเย็นเป็นสุข





ที่มา :

www.109wat.com
www.tumsrivichai.com

ขอบคุณรูปและข้อมูลจาก หนังสือพระเครื่องล้ำค่าเมืองใต้ โดยคุณชัยนฤทธิ์ พันธุ์ทอง 
ขอบคุณเจ้าของพระเครื่องแต่ละองค์ที่มีรูปอยู่ในหนังสือ
ขอบคุณข้อมูลจาก คุณราม วัชรประดิษฐ์ ข่าวสด

No comments:

ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอมักเป็นที่รังเกียจ