2011-02-19

ปาจิตติยกัณฑ์ ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๖. สุราปานวรรค สิกขาบทที่ ๓ เรื่องพระสัตตรสวัคคีย์

พระวินัยปิฎก เล่ม ๒ มหาวิภังค์ ทุติยภาค  
ปาจิตติยกัณฑ์  
ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๖. สุราปานวรรค
สิกขาบทที่ ๓ เรื่องพระสัตตรสวัคคีย์


[๕๘๖] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันอารามของ
อนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น พระสัตตรสวัคคีย์กำลังเล่นน้ำกันอยู่ใน
แม่น้ำอจิรวดี ขณะนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับอยู่ ณ พระปราสาทชั้นบน พร้อมด้วย
พระนางมัลลิกาเทวี ได้ทอดพระเนตรเห็นพระสัตตรสวัคคีย์กำลังเล่นน้ำอยู่ในแม่น้ำอจิรวดี
ครั้นแล้วก็ได้รับสั่งกะพระนางมัลลิกาเทวีว่า นี่แน่ะแม่มัลลิกา นั่นพระอรหันต์กำลังเล่นน้ำ
พระนางกราบทูลว่า ขอเดชะ ชะรอยพระผู้มีพระภาคจะยังมิได้ทรงบัญญัติสิกขาบท
หรือภิกษุเหล่านั้นจะยังไม่สันทัดในพระวินัยเป็นแน่ พระพุทธเจ้าข้า
ขณะนั้น ท้าวเธอทรงรำพึงว่า ด้วยอุบายอย่างไรหนอ เราจะไม่ต้องกราบทูลพระผู้มี-
*พระภาค และพระผู้มีพระภาคจะพึงทรงทราบได้ว่า ภิกษุเหล่านี้เล่นน้ำ ครั้นแล้วท้าวเธอรับสั่ง
ให้นิมนต์พระสัตตรสวัคคีย์มา แล้วพระราชทานน้ำอ้อยงบใหญ่แก่ภิกษุเหล่านั้น รับสั่งว่า
ขอพระคุณเจ้าโปรดถวายน้ำอ้อยงบนี้แด่พระผู้มีพระภาค
พระสัตตรสวัคคีย์ได้นำน้ำอ้อยงบนั้นไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคแล้วกราบทูลว่า พระเจ้า-
*แผ่นดินถวายน้ำอ้อยงบนี้แด่พระองค์ พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็พระเจ้าแผ่นดินพบพวกเธอที่ไหนเล่า?
พระสัตตรสวัคคีย์กราบทูลว่า พบพวกข้าพระพุทธเจ้ากำลังเล่นน้ำอยู่ในแม่น้ำอจิรวดี
พระพุทธเจ้าข้า
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉน พวกเธอจึงได้เล่นน้ำ
เล่า? การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส
หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ...
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระบัญญัติ
๑๐๒. ๓. เป็นปาจิตตีย์ ในเพราะธรรม คือ หัวเราะในน้ำ
เรื่องพระสัตตรสวัคคีย์ จบ
สิกขาบทวิภังค์
[๕๘๗] ที่ชื่อว่า ธรรม คือ หัวเราะในน้ำ ความว่า ในน้ำลึกพ้นข้อเท้าขึ้นไป ภิกษุ
มีความประสงค์จะรื่นเริง ดำลงก็ดี ผุดขึ้นก็ดี ว่ายไปก็ดี ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
บทภาชนีย์
ติกะปาจิตตีย์
[๕๘๘] เล่นน้ำ ภิกษุสำคัญว่าเล่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
เล่นน้ำ ภิกษุสงสัย ต้องอาบัติปาจิตตีย์
เล่นน้ำ ภิกษุสำคัญว่ามิได้เล่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์
ทุกกฏ
[๕๘๙] ภิกษุเล่นน้ำตื้นใต้ข้อเท้า ต้องอาบัติทุกกฏ
ภิกษุเล่นเรือ ต้องอาบัติทุกกฏ
ภิกษุเอามือวักน้ำก็ดี เอาเท้าแกว่งน้ำก็ดี เอาไม้ขีดน้ำก็ดี เอากระเบื้องปาน้ำเล่นก็ดี
ต้องอาบัติทุกกฏ
น้ำ น้ำส้ม น้ำนม เปรียง น้ำย้อม น้ำปัสสาวะ หรือน้ำโคลน ซึ่งขังอยู่ในภาชนะ
ภิกษุเล่น ต้องอาบัติทุกกฏ
[๕๙๐] ไม่ได้เล่นน้ำ ภิกษุสำคัญว่าเล่น ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ได้เล่นน้ำ ภิกษุสงสัย ต้องอาบัติทุกกฏ
ไม่ต้องอาบัติ
ไม่ได้เล่นน้ำ ภิกษุสำคัญว่าไม่ได้เล่น ไม่ต้องอาบัติ
อนาปัตติวาร
[๕๙๑] ภิกษุไม่ประสงค์จะเล่น แต่เมื่อมีกิจจำเป็น ลงน้ำแล้วดำลงก็ดี ผุดขึ้นก็ดี ว่าย-
*ไปก็ดี ๑ ภิกษุผู้จะข้ามฟาก ดำลงก็ดี ผุดขึ้นก็ดี ว่ายไปก็ดี ๑ มีอันตราย ๑ ภิกษุวิกลจริต ๑
ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑ ไม่ต้องอาบัติแล
สุราปานวรรค สิกขาบทที่ ๓ จบ.
-----------------------------------------------------

ที่มา : http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=02&A=12045&Z=12095

No comments:

ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอมักเป็นที่รังเกียจ