2011-01-12

ปาจิตติยกัณฑ์ ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๕. อเจลกวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ เรื่องพระฉัพพัคคีย์

พระวินัยปิฎก เล่ม ๒ มหาวิภังค์ ทุติยภาค  
ปาจิตติยกัณฑ์  
ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๕. อเจลกวรรค
สิกขาบทที่ ๑๐ เรื่องพระฉัพพัคคีย์


[๕๗๑] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ
อนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี. ครั้งนั้น พระฉัพพัคคีย์กำลังอยู่ในกองทัพ ๒-๓ คืน
ไปสู่สนามรบบ้าง ไปสู่ที่พักพลบ้าง ไปสู่ที่จัดขบวนทัพบ้าง ไปดูกองทัพที่จัดเป็นขบวนแล้วบ้าง.
พระฉัพพัคคีย์รูปหนึ่งไปสู่สนามรบแล้วถูกยิงด้วยลูกปืน. คนทั้งหลายจึงล้อเธอว่า พระคุณเจ้าได้
รบเก่งมาแล้วกระมัง, พระคุณเจ้าได้คะแนนเท่าไร. เธอถูกเขาล้อได้เก้อเขินแล้ว, ชาวบ้านจึง
เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉน พระสมณะเชื้อสายพระศากยบุตร จึงได้มาถึงสนามรบ เพื่อจะ
ดูเขาเล่า? มิใช่ลาภของพวกเรา, แม้พวกเราที่มาสนามรบ เพราะเหตุแห่งอาชีพ เพราะเหตุแห่ง
บุตรภรรยา ก็ได้ไม่ดีแล้ว.
ภิกษุทั้งหลายได้ยินเขาเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาอยู่. บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย ... ต่างก็เพ่ง
โทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนพระฉัพพัคคีย์จึงได้ไปถึงสนามรบเพื่อจะดูเขาเล่า? แล้วกราบ
ทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค ...
ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามพระฉัพพัคคีย์ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า พวกเธอไปถึง
สนามรบเพื่อดูเขา จริงหรือ?
พระฉัพพัคคีย์ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉน พวกเธอจึงได้ถึง
สนามรบเพื่อดูเขาเล่า? การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยัง
ไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ...
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:-
พระบัญญัติ
๙๙. ๑๐. ถ้าภิกษุอยู่ในเสนา ๒-๓ คืน ไปสู่สนามรบก็ดี ไปสู่ที่พักพลก็ดี
ไปสู่ที่จัดขบวนทัพก็ดี ไปดูกองทัพที่จัดเป็นขบวนแล้วก็ดี, เป็นปาจิตตีย์
เรื่องพระฉัพพัคคีย์ จบ.
สิกขาบทวิภังค์
[๕๗๒] คำว่า ถ้าภิกษุอยู่ในเสนา ๒-๓ คืน นั้น คือ พักแรมอยู่ ๒-๓ คืน.
ที่ชื่อว่า สนามรบ ได้แก่ สถานที่มีการรบพุ่ง ซึ่งยังปรากฏอยู่.
ที่ชื่อว่า ที่พักพล ได้แก่สถานที่พักกองช้างมีประมาณเท่านี้, กองม้ามีประมาณเท่านี้,
กองรถมีประมาณเท่านี้, กองพลเดินเท้ามีประมาณเท่านี้,
ที่ชื่อว่า ที่จัดขบวนทัพ ได้แก่สถานที่เขาจัดว่า กองช้างจงอยู่ทางนี้, กองม้าจงอยู่ทางนี้,
กองรถจงอยู่ทางนี้, กองพลเดินเท้าจงอยู่ทางนี้,
ที่ชื่อว่า กองทัพที่จัดเป็นขบวนแล้ว ได้แก่ กองทัพช้าง ๑ กองทัพม้า ๑ กองทัพรถ ๑
กองพลเดินเท้า ๑.
กองทัพช้างอย่างต่ำมี ๓ เชือก, กองทัพม้าอย่างต่ำมี ๓ ม้า, กองทัพรถอย่างต่ำมี ๓ คัน,
กองพลเท้าอย่างต่ำมีทหารถือปืน ๔ คน.
บทภาชนีย์
[๕๗๓] ภิกษุไปเพื่อจะดู, ต้องอาบัติทุกกฏ.
ภิกษุยืนอยู่ในสถานที่เช่นไรมองเห็น, ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ภิกษุละทัศนูปจารแล้ว ยังมองดูอยู่อีก, ต้องอาบัติปาจิตตีย์.
ภิกษุไปเพื่อจะดูกองทัพแต่ละกอง, ต้องอาบัติทุกกฏ.
ภิกษุยืนดูอยู่ในที่ใดมองเห็น, ต้องอาบัติทุกกฏ.
ภิกษุละทัศนูปจารแล้วยังมองดูอีก, ต้องอาบัติทุกกฏ.
อนาปัตติวาร
[๕๗๔] ภิกษุอยู่ในอารามมองเห็น ๑, การรบพุ่งผ่านมายังสถานที่ภิกษุยืน นั่ง หรือนอน
เธอมองเห็น ๑, ภิกษุเดินสวนทางไปพบเข้า ๑, ภิกษุมีกิจจำเป็นเดินไปพบเข้า ๑, มีอันตราย ๑,
ภิกษุวิกลจริต ๑, ภิกษุอาทิกัมมิกะ ๑, ไม่ต้องอาบัติแล.
อเจลกวรรค สิกขาบทที่ ๑๐ จบ.

ปาจิตตีย์ วรรคที่ ๕ จบ.
-----------------------------------------------------

ที่มา : http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=02&A=11853&Z=11903

No comments:

ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอมักเป็นที่รังเกียจ