2010-11-01

ประวัติ หลวงพ่อแหวง อาภากโร วัดคึกคัก

หลวงพ่อแหวง อาภากโร หรือ อาภาคโร เป็น อดีตเจ้าอาวาส วัดคมนียเขต หรือ วัดคึกคัก ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ระหว่าง พ.ศ. 2484 - 2511 รวมระยะเวลา 27 ปี ท่านเป็น ที่ศรัทธาของชาวบ้านในเขตจังหวัดพังงา ภูเก็ต และใกล้เคียง นอกจากนี้สังขารของท่าน ยังไม่เน่าเปื่อยเป็นที่สักการะบูชาเป็นเวลา 41 ปี จริยาวัตรท่านเป็นพระที่อยู่อย่างเรียบง่าย มีความเมตตา ต่อทุกคน นอกจากนี้ท่านยังพูดเป็นไปตามปาก เราเรียกกันวาจาสิทธิ์ กุฏิของท่านจะมีการก่อกองไฟตลอดเวลา เพื่อผิงไฟ เป็นที่แปลกตาของผู้มาเยี่ยมเยือน

หลวงพ่อแหวง อาภากโร วัดคึกคัก(วัดคมนียเขต) อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ยอดพระคณาจารย์ผู้เรืองวิทยาอาคมและไสยเวทแห่งเมืองตะกั่วป่า ท่านมีบุญญาธิการและกฤตยาคมสูงส่ง

หลวงพ่อแหวง อาภากโร เป็นศิษย์ของ ท่านพระครูประสาทประกฤตพรต ( ซิ่น ธมฺมรกฺขิโต ) อดีตเจ้าอาวาสวัดคึกคัก องค์แรก
เรียนวิชาสมุนไพรใบยา วิชามหาประสาน ไสยเวทย์มนตรา จนสำเร็จ ท่านพระครูประสาทประกฤตพรต ( ซิ่น ธมฺมรกฺขิโต ) จึงได้ฝากฝังให้ไปเรียน วิชากสิณไฟ ผงพระเจ้าโปรดโลก ผงพระสีวลี และผงมหาราชศรีวิชัย จาก พระอุปัชฌาย์เทือก มานะจาโร ผู้วิเศษอันลือเลื่องแห่ง วัดบ่อเสน

มงคลวัตถุของท่านในปัจจุบันเป็นของดี ล้ำค่าที่หายาก สืบเนื่องจากประสบการณ์อันโด่งดัง ทั่วแถบทะเลอันดามันมาช้านานหลายทศวรรษ ท่านฉันอาหาร เพียงมื้อเดียว โดยในวันธรรมดาท่านจะฉันแค่ผลไม้ ส่วนวันพระ ท่านจะฉันข้าวเพียง ๙ คำ เท่านั้น

ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่เยาว์วัย จนได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นสมภาร (เจ้าอาวาส) วัดคึกคัก ท่านเป็นศิษย์ของ พระครูประสาทประกฤตพรต ( ซิ่น ธมฺมรกฺขิโต ) อดีตเจ้าอาวาสวัดคึกคัก องค์แรก เรียนวิชาสมุนไพรใบยา วิชามหาประสาน ไสยเวทย์มนตรา จนสำเร็จ
ท่านพระ ครูประสาทประกฤตพรต ( ซิ่น ธมฺมรกฺขิโต ) จึงได้ฝากฝังให้ไปเรียน วิชากสิณไฟ ผงพระเจ้าโปรดโลก ผงพระสีวลี และผงมหาราชศรีวิชัย จาก พระอุปัชฌาย์เทือก มานะจาโร ผู้วิเศษอันลือเลื่องแห่ง วัดบ่อเสน

ตลอดระยะกว่า ๕๐ ปี ที่ดำรงอยู่นสมณเพศ ท่านได้เพียรบำเพ็ญบารมีธรรม ปฏิบัติสมาธิ วิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัด อีกทั้งใฝ่ศึกษาวิชาไสยเวท ร่ำเรียนวิทยาคมทุกแขนงจากครูบาอาจารย์ต่างๆ อย่างแตกฉาน ท่านปฏิบัติเป็นพระป่า เมื่ออกพรรษาทุกปี ท่านจะออกธุดงค์วัตรเพื่อแสวงหาโมกธรรม และกลับวัดเมื่อถึงวัดเข้าพรรษา

ช่วงชีวิตของท่านส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในป่าลึก ต้องเผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก และภยันตรายจากสัตว์ป่าดุร้ายนานาชนิด แต่ท่านก็มิได้เกรงกลัวหรือย่อท้อแต่ประการใด จึงเป็นที่เคารพเลื่อมศรัทธาของสาธุชนทั่วไป ท่านได้ถึงกาลมรณภาพเมื่อพุทธศักราช ๒๕๑๑

ที่มา : ชมรมคนรักษ์พระเครื่องเมืองตรัง

No comments:

ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอมักเป็นที่รังเกียจ