2010-03-23

อรูปราคะ

อรูปราคะ หรืออรูปฌาน การติดใจติดเพลิน ติดใจอยากในรสประณีตอันละเอียดยิ่งขึ้นของสิ่งที่เป็นอรูป อันวิจิตร ซึ่งไม่มีตัวตนรูปร่างอันสัมผัส เป็นการสัมผัสได้ด้วยใจหรือจิตนั่นเอง เช่นใน อรูปฌาน, เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ดังเช่น การติดเพลินหรือยึดมั่นในสุข เวทนาอันแสนสบายหรือถูกใจ เช่นเวทนาความรู้สึกในรูปโฉม,สิ่งสวยงามหรือทรัพย์สมบัติ(สุขเวทนา), พึงพอใจระลึกในสัญญาจําในอดีตอันเป็นสุข ฯลฯ.

สําหรับผู้ปฏิบัติที่ผ่านการฝึกฝนอบรมในด้านสมถสมาธิ เฉกเช่นเดียวกันกับรูปฌานย่อมหมายรวม อรูปฌาน อันยังให้เกิดความติดเพลินความพึงพอใจในรสอันประณีตวิจิตรเหนือธรรมดาของฌานอันเกิดแต่ อรูป เป็นอารมณ์

อรูปราคะ จึงยิ่งละเอียดอ่อนนอนเนื่องยิ่งกว่ารูปราคะเสียอีก ดังเช่น อรูปราคะในสุขเวทนาหรือเหล่าความสุข, อรูปราคะในทุกขเวทนาหรือความทุกข์, อรูปราคะในสัญญาความจำได้หมายรู้แต่ อดีต, แม้แต่อรูปราคะในพระนิพพาน ที่แม้ในช่วงแรกที่ยังไม่ละในโอรัมภาคิย สังโยชน์ ๕ พระองค์ท่านสอนให้น้อมระลึกหรือน้อมนำถึงพระนิพพานอันบรมสุขอยู่เนืองๆ จัดเป็นอุปสมานุสติ แต่ก็ไม่ให้ยึดมั่นถือมั่นแม้พระนิพพานนั้น กล่าวคือ ด้วยเป็นสิ่งที่ต้องละในที่สุดเช่นกัน ก็เนื่องด้วยความเป็นอรูปราคะอย่างหนึ่งนั่นเอง  ที่แม้มีประโยชน์ยิ่ง เพราะเป็นกำลังแก่จิตในการดำเนินการปฏิบัติเพื่อการวิปัสสนา ในช่วงการละสังโยชน์เบื้องต่ำทั้ง ๕ แต่แล้วในที่สุด ต้องใช้สัมมาญาณจากการวิปัสสนาในการละอรูปราคะแม้ในพระนิพพานนี้ ที่หมายถึงไม่ยึดมั่นในพระนิพพานอีกครั้งหนึ่ง, ส่วนในความสุขทุกข์นั้นเล่า เกิดแต่จิตโดยตรงและมีเหตุปัจจัยมาจากสังขารอย่างชนิดที่ไม่มีตัวตนหรืออรูปคือเวทนา เกิดแต่เหตุปัจจัยดังเช่นเงา ก็ยังแฝงอยู่ด้วยราคะอันละเอียดนอนเนื่องเป็นอย่างยิ่ง มีความกำหนัด ความปรารถนาอยู่ในความสุขทั้งหลาย และวิภวตัณหาในเหล่าทุกข์ทั้งปวง โดยละเอียดโดยไม่รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา

สังโยชน์ในข้อ รูปราคะและอรูปราคะ นั้น ละเอียดอ่อน ดังที่ท่านพุทธทาสได้กล่าวไว้ดังนี้

"สังโยชน์อีก ๒ ชื่อ ซึ่งพระอรหันต์จะต้องละนั้น ได้แก่ รูปราคะ และอรูปราคะ ราคะ ๒ อย่างนี้ไม่ได้เกี่ยวกับกาม(กาม นี้ท่านหมายถึง วัตถุกาม) เป็นเพียงความพอใจในรสของความสงบสุข(กล่าวคือ เป็นกิเลส กาม) ทั้งที่เกิดมาจากการเพ่งรูป และการเพิ่งสิ่งที่ไม่มีรูป เป็นธรรมดาอยู่เองที่สุขเวทนาอันประณีต ก็ย่อมเป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือขั้นประณีต

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ละได้ยาก ดังคำกล่าวในรูปของบุคคลาธิษฐานที่ว่า อายุของพวกพรหมโลกนั้นยืนยาวเป็นกัปป์ๆ ทีเดียว ข้อนี้หมายความว่า ความพอใจในรูป ราคะและอรูปราคะ หรือความที่ได้เป็นพรหมนั้น มีกำลังเหนียวแน่นและลึกซึ้งมาก ยากที่จะถอนออกได้ง่ายๆ เมื่อเทียบส่วนกันกับความพอใจในกามราคะทั่วๆ ไปของมนุษย์ กล่าวให้สั้นที่สุด ก็ว่า สุขเวทนาที่เกิดมาจากความสงบของจิตและอำนาจของสมาธินั้น มีรสชาติยิ่งไปกว่าสุขเวทนาที่เกิดมาจากกาม อย่างที่จะเปรียบกันไม่ได้ทีเดียว" ( จาก วิธีลดอัตตา โดย ท่านพุทธทาส)

หรือ กล่าวโดยสรุปได้ว่า อารมณ์ทั้งในรูปราคะและอรูปราคะต่างก็ล้วนอยู่ในสภาพของอารมณ์ที่ประกอบด้วยอุปาทานอยู่ในทีแล้วนั่นเอง กล่าวคือ มีอารมณ์หรือกามนั้น นอนเนื่องซึมซ่านย้อมจิตอยู่แล้ว เมื่อประสบกับอารมณ์นั้นก็เป็นไปดังสิ่งที่นอนเนื่องซึมซาบย้อม จิตทันที จึงเป็นสิ่งที่ไม่มีในพระอรหันต์เจ้าเท่านั้นเอง

ที่มา : http://www.nkgen.com

No comments:

ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอมักเป็นที่รังเกียจ