นันทมาณพปัญหาที่ ๗
ชนทั้งหลายกล่าวว่า มุนีมีอยู่ในโลกนี้ ข้อนี้เป็นอย่างไร เขาเรียกคนถึงพร้อมด้วยญาณ หรือถึงพร้อมด้วยการเลี้ยงชิวิตว่ามุนี
พระศาสดาทรงพยากรณ์ ผู้ฉลาดในโลกนี้ ไม่กล่าวว่าคนเป็นมุนี ด้วยความเห็น ด้วยความสดับ หรือด้วยความรู้ เรากล่าวว่าคนใด ทำตนให้ปราศจากกองกิเลส เป็นคนหากิเลสมิได้ ไม่มีความหวังทะยานอยากเที่ยวอยู่ คนผู้นั้นแลชื่อว่ามุนี
นันทมาณพ : สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่งกล่าวความบริสุทธิ์ด้วยความเห็นด้วยความฟัง ด้วยศีลและพรต และด้วยวิธีเป็นอันมาก สมณพราหมณ์เหล่านั้น ประพฤติในวิธีเหล่านั้น ตามที่ตนเห็นว่าเป็นเครื่องบริสุทธิ ข้ามพ้นชาติชราได้แล้วบ้างหรือหาไม่ ข้าพเจ้าทูลถาม
พระศาสดา : สมณพราหมณ์เหล่านั้น ถึงแม้ประพฤติอย่างนั้น เรากล่าวว่าพ้นชาติชราไม่ได้แล้ว
นันทมาณพ : เมื่อเป็นเช่นนั้น ใครเล่าในเทวโลก หรือมนุษยโลก ข้ามพ้นชาติชราได้แล้ว
พระศาสดา : เราไม่กล่าวว่า สมณพราหมณ์อันชาติชรา ครอบงำแล้วทุกคน แต่เรากล่าวว่า สมณพราหมณ์เหล่าใดในโลกนี้ ละอารมณ์ที่ตนได้เห็นได้ฟังได้รู้ และศีลพรตกับรู้วิธี เป็นอันมากเสียหมด กำหนดรู้ตัณหาว่าเป็นโทษควรละแล้ว เป็นผู้หาอาสวะมิได้ สมณพราหมณ์เหล่านั้นแล ข้ามห้วงได้แล้ว
นันทมาณพ : ข้าพระเจ้าชอบใจพระวาจาของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงแสดงธรรมอันไม่มีอุปธิ (กิเลส) ชอบแล้ว แม้ข้าพระเจ้าก็เรียกสมณพราหมณ์เหล่านั้นว่า ผู้ข้ามห้วงได้แล้ว เหมือนพระองค์ตรัส
ที่มา : หอมรดกไทย
พระศาสดาเทศนาจบ นันทมาณพ ได้บรรลุอรหันต์ เป็นพระนันทเถระ และเป็น อสีติมหาสาวก คือ พระสาวกสำคัญ 80 รูป ของพระพุทธเจ้า
อ่าน ประวัติพระนันทเถระ เพิ่มเติม
No comments:
Post a Comment