อุปสีวมาณพปัญหาที่ ๖
ลำพังข้าพระเจ้าผู้เดียว ไม่ได้อาศัยอะไรแล้ว ไม่อาจข้ามห้วยทะเลใหญ่คือ กิเลสได้ ขอพระองค์ตรัสบอกอารมณ์ที่หน่วงเหนี่ยว อันข้าพระเจ้าจะควรอาศัยข้ามห้วงนี้แก่ข้าพระเจ้าเถิด
พระศาสดาทรงพยากรณ์ ท่านจงเป็นผู้มีสติแพ่งอากิญจัญญายตนฌาน อาศัยอารมณ์ว่าไม่มี ๆ ดังนี้ ข้ามห้วงเสียเถิด ท่านจงละกามทั้งหลายเสีย เป็นคนเว้นจากความสงสัย เห็นธรรมที่สิ้นไปแห่งความทะยานอยาก ให้ปรากฏชัดทั้งกลางคืน กลางวันเถิด
อุปสีวมาณพ : ผู้ใด ปราศจากความกำหนัดในกามทั้งปวงแล้ว ล่วงฌานได้แล้ว อาศัยอากิญจัญญายตนฌานน้อมใจแล้วในอากิญจัญญายตนฌาน อันเป็นธรรมเปลื้องสัญญาอย่างประเสริฐสุด ผู้นั้นจะต้องอยู่ในอากิญจัญญายตนฌานนั้น ไม่มีเสื่อมบ้างหรือ ?
พระศาสดา : ผู้นั้น จะตั้งอยู่ใน อากิญจัญญายตนฌานนั้นไม่มีเสื่อม
อุปสีวมาณพ : ถ้าผู้นั้น จะตั้งอยู่ในอากิญจัญญายตนฌานนั้นไม่มีเสื่อม สิ้นปีเป็นอันมาก เขาจะเป็นผู้ยั่งยืนอยู่ในอากิญจัญญายตนฌานนั้น หรือจะดับขันธปรินิพพาน วิญญาณของผู้เช่นนั้น จะเป็นฉันใด ?
พระศาสดา : เปลวไฟอันกำลังลมเป่าแล้วดับไป ไม่ถึงความนับได้ไปแล้วข้างทิศไหน ฉันใด ท่านผู้รู้พ้นไปแล้วจากนามรูป ย่อมดับไม่เหลือเชื้อ (คือ ดับพร้อมทั้งกิเลสทั้งขันธ์) ไม่ถึงความนับว่าไปเถิดเป็นอะไรฉันนั้น
อุปสีวมาณพ : ท่านผู้นั้น ดับไปแล้ว หรือว่าเป็นแต่ไม่มีตัว หรือจะเป็นผู้ตั้งอยู่ยั่งยืน หาอันตรายมิได้ ขอพระองค์ทรงพยากรณ์ความข้อนั้นแก่ข้าพระเจ้า
พระศาสดา : ประมาณแห่งเบญจขันธ์ของผู้ที่ดับ ปรินิพานแล้ว มิได้มีกิเลส ซึ่งเป็นเหตุกล่าวผู้นั้นว่า ไปเถิดเป็นอะไรของผู้นั้นมิได้มี เมื่อธรรมทั้งหลาย (มีขันธ์ เป็นต้น) อันผู้นั้นจัดได้หมดแล้ว ก็ตัดทางแห่งถ้อยคำ ที่พูดถึงผู้นั้นว่าจะเป็นอะไรเสียทั้งหมด
ที่มา : หอมรดกไทย
พระศาสดาเทศนาจบ อุปสีวมาณพ ได้บรรลุอรหันต์ เป็นพระอุปสีวเถระ และเป็น อสีติมหาสาวก คือ พระสาวกสำคัญ 80 รูป ของพระพุทธเจ้า
อ่าน ประวัติพระอุปสีวเถระ เพิ่มเติม
No comments:
Post a Comment