นิทานธรรมะ เรื่องของราหู โดยที่มาของนิทานเรื่องนี้มาจากหนังสือโบราณ ที่กล่าวถึงกำเนิดเทวะ ในตอนที่กล่าวถึงว่า...
เทพและมารทั้งหลายได้มีความรู้สึกกลัวความแก่ ความเจ็บและความตาย อีกทั้งประจวบกับบรรดามารและเทพทั้งหลายได้เห็น พวกพ้องมิตรสหายทั้งหลายได้หมดบุญหมดวาสนาจากอัตภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จะต้องไปเกิดในที่อันไม่พึงปรารถนา ต่างฝ่ายต่างก็ให้ปริวิตกกังวล กลัวเวลาแห่งการที่ต้องไปเกิด ในที่อันไม่น่าปรารถนาของตนจะมาถึง ต่างก็พยายามแสวงหาวิธีเอาตัวรอดจากมรณะและภพภูมิอันไม่พึงปรารถนา ทั้งเทพและพรหมมารทั้งปวงก็พากันมาประชุมปรึกษาหาวิธีแก้มรณกรรมอันจะเกิด ขึ้นแก่ตน (เข้าใจว่ายุคนั้นคงจะยังไม่ปรากฏ พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ จึงยังไม่มีใครบอกและสอนถึงวิธีพ้นจากเกิด แก่ เจ็บ และตาย)
ทุกตนในเทวสภาและพญามารทั้งหลาย ก็เห็นสมควรจะต้องไปปรึกษาท่านผู้รู้ และท่านผู้รู้เหล่านั้นก็คือ ครู อาจารย์ของตน ซึ่งเป็นฤๅษีดาบส อยู่ ณ ป่าหิมวันต์ ครั้นปรึกษาเป็นที่ตกลงกันเช่นนั้นแล้ว ต่างฝ่ายต่างก็สำแดงเดชานุภาพ เหาะมาสู่ ณ ที่พักแห่งอาจารย์ของตน และพากันแจ้งเหตุที่มาหาให้แก่อาจารย์ของตนได้ฟัง บรรดาเทพฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ของเทพและมารทั้งหลาย ได้เห็นความปริวิตกของสัทธิวิหาริกคือลูกศิษย์ของตนเช่นนั้น ก็นั่งพิเคราะห์ดูด้วยญาณ (ซึ่งมิได้ประกอบด้วยปัญญาหยั่งรู้)ก็ได้รู้วิธีที่จะเอาชนะมรณกรรมได้ด้วย การหาของบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ทั้งพันชนิด และน้ำบริสุทธิ์ทั้งหมื่นโลกธาตุมารวมกัน และคละประกอบด้วยเทพมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่หมื่นคาบ และใช้เทพโอสถที่มีชีวิตทั้ง ๗ ชนิด บดเข้าด้วยกันด้วยภูเขาชิเนรุมาศ และใช้น้ำตาของพญานาคทั้ง ๘ เป็นตัวผสานเมื่อเทพฤๅษีทั้งหลายได้รู้วิธีเอาชนะมรณกรรมแล้วก็แจ้งแก่บรรดา เทพและมารผู้เป็นลูกศิษย์ พร้อมกับให้แยกย้ายกันไปหาสรรพยาทั้งหลาย เทพและมารทั้งปวงเมื่อได้ฟังมาว่ามีวิธีที่จะเอาชนะมรณกรรมได้โดยการกวนยา วิเศษก็โห่ร้องด้วยความลิงโลด แล้วจัดแบ่งหน้าที่ที่จะไปเอาของวิเศษทั้งหลายในทิศทางต่างๆ มารวมกัน
ครั้นเมื่อได้ของวิเศษมาครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว เทพฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ทั้งหลายก็มีบัญชาให้พญาครุฑไปยกเขาพระสุเมรุ มาทำเครื่องบด แล้วให้พระธรณีเนรมิตสถานที่บด พร้อมทั้งสั่งการบรรดาเทพและมารทั้งปวงให้เทของวิเศษทั้งหลายรวมกัน แล้วให้พญาครุฑวางเขาพระสุเมรุทับแล้วสั่งให้พญานาคทั้งเจ็ดเนรมิตกายให้ยืด ยาวประดุจดังเชือกเส้นใหญ่ทั้งเจ็ดรวมกันให้เทวะทั้งหลายจับปลายเชือกด้าน ซ้าย ยักษ์และมารทั้งหลายจับปลายเชือกด้วนขวา เทพฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ของเทวดาอยู่ด้านหน้า เทพฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ของยักษ์และมารทั้งหลายอยู่ด้านหลัง ทั้งสองด้านได้พร้อมกันสาธยายเทพมนต์ ในขณะที่เทพและมารช่วยกันฉุดเชือกนาคเพื่อให้เขาพระสุเมรุนั้นหมุนไปทางด้วน ซ้ายและขวา โดยมีพญาครุฑคอยหัวเหาะพยุงเขาพระสุเมรุอยู่ด้านบน ยาทิพย์นี้ใช้เวลาบดอยู่เจ็ดปี เจ็ดเดือน เจ็ดวันจึงจะสำเร็จ
อ่าน ประวัติราหู (ตอนที่ 2)
ที่มาโดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์
No comments:
Post a Comment