2009-06-08

หมู่บ้าน ในสมัยพุทธกาล

ชมพูทวีปในสมัยพุทธกาลมีหมู่บ้าน ต่าง ๆที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา ซึ่งพอจะประมวลนำมาบันทึกไว้ ณ ที่นี้ได้ดังต่อไปนี้

กัลลวาลมุตตคาม เป็นหมู่บ้านอยู่ในแคว้นมคธ เมื่อคราว พระโมคคัลลานะอุปสมบทได้ ๗ วัน ไปทำความเพียรจนอ่อนใจนั่งสัปหงกโงกง่วงอยู่ พระพุทธเจ้าเสด็จไปเทศนาโปรด จนได้สำเร็จพระอรหัต ที่กัลลวาลมาตุคามนี้

โกลิตคาม เป็นหมู่บ้านเกิดของ "โกลิตะ" บุตรของตระกูลหัวหน้าหมู่บ้าน ภายหลังบวชในพระพุทธศาสนามีนามว่า พระโมคคัลลานะ เป็นพระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้าได้รับยกย่องว่าเป็น เอตทัคคะในทางมีฤทธิ์มาก โกลิตคามตั้งอยู่ใกล้พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ

ถูนคาม เป็นเขตแดนบ้านที่กั้นถิ่นกลางหรือมัชฌิมประเทศ กับเมืองชายแดนนอกหรือปัจจันตประเทศ ถูนคามเป็นที่กำหนดเขตสุดแดนทางทิศตะวันตก นับแต่ถูกคามเข้ามาคือมัชฌิมประเทศ

นาลันถคาม อยู่ติดกับโกลิตคาม เป็นหมู่บ้านเกิดของ "อุปติสสะ"บุตรของตระกูลหัวหน้าหมู่บ้าน เป็นเพื่อนสนิทของโกลิตะ ภายหลังบวชในพระพุทธศาสนามีนามว่า พระสารีบุตร เป็นพระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางมีปัญญามาก พระสารีบุตรเป็นกำลังสำคัญของ พระพุทธเจ้าในการประกาศพระศาสนา และได้รับยกย่องว่าเป็นพระธรรมเสนาบดี นาลันถคามยังเป็นบ้านเกิดของน้องชาย ๓ น้องหญิง ๓ ของพระสารีบุตร ซึ่งต่อมาบวชในพระธรรมวินัยทั้งหมดและน้องชายทั้ง ๓ เป็นพระสาวกผู้ใหญ่จำนวน ๘๐ องค์ทุกคน นาลันถคามตั้งอยู่ใกล้พระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ

ปาริเลยยกะ ในพรรษาที่ ๑๐ ระหว่างเวลา ๔๕ ปี แห่งการบำเพ็ญพุทธกิจของพระพุทธเจ้า พระบรมศาสดาทรงจำพรรษาอยู่ที่แดนบ้านปาริเลยยกะใกล้เมืองโกสัมพี แคว้นวังสะ พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าไปอาศัยอยู่ในป่ารักขิตวัน ด้วยทรงปลีกพระองค์จากพระสงฆ์ที่แตกกันในกรุงโกสัมพี ตลอดระยะเวลาที่จำพรรษาอยู่ในป่ารักขิตวันนั้น มีพญาช้างปาริเลยยกะคอย ปฏิบัติดูและพระพุทธเจ้า

ปิลินทวัจฉคาม เป็นหมู่บ้านของคนงานวัดจำนวน ๕๐๐ ที่พระเจ้าพิมพิสารพระราชทาน ให้เป็นผู้ช่วยทำที่อยู่ของ พระปิสินทวัจฉะ พระมหาสาวกผู้เป็นเอตทัคคะให้ทางเป็นที่รักของพวกเทวดา ปิลินทวัจฉคามอยู่ที่พระนครราชคฤห์ แว้นมคธ

เสนานิคม เป็นหมู่บ้านในตำบลอุรุเวลา ในแคว้นมคธ นางสุชาดาผู้ถวายข้าวปายาสแด่พระมหาบุรุษในเวลาเช้าวันเพ็ญ เดือน ๖ วันที่จะตรัสรู้อยู่ที่หมู่บ้านเสนานิคมนี้ ภายหลังนางสุชาดา ได้เป็นปฐมอุบาสิกาพร้อมกับภรรยาเก่าของยสะบุตรชายของนาง

อันธกวินทะ เป็นหมู่บ้านอยู่ติดกับกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ

เอกนาลา หมู่บ้านพราหมณซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จประทับจำพรรษาในพรรษาที่ ๑๑ ระหว่างเวลา ๔๕ ปี แห่งการบำเพ็ญพุทธกิจ

ในกาลที่พระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์ พระนครไพศาลี (เวสาลี) ในวันเพ็ญเดือน ๓ พรรษาที่ ๔๕ ภายหลังตรัสรู้พระบรมศาสดาตรัสว่า แต่นี้ไปอีก ๓ เดือน พระตถาคตก็จักปรินิพพานกาลต่อมาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ๕๐๐ รูปได้เดินทางออกจากพระนครไพศาลี เพื่อมุ่งหน้าไปยัง สาลวโนทยาน ในกรุงกุสินารา แคว้นมัลละ สถานที่ซึ่งพะพุทธองค์มีประสงค์จักปรินิพพาน ในระหว่างพุทธดำเนินจากพระนครไพศาลีไปกรุงกุสินาราทรงเสด็จผ่านหมู่บ้านต่าง ๆ ดังนี้

พระพุทธเจ้าทรงพาพระภิกษุสงฆ์เสด็จไปยังบ้าน ภัณฑุคาม แสดงธรรมโปรดพุทธบริษัท ต่อจากนั้นเสด็จไปบ้าน หัตถีคาม อัมพุคามชัมพุคาม และโภคนคร โดยลำดับ ประทับอยู่ที่โภคนครแสดงธรรมโปรดพุทธบริษัทชาวเมืองนั้น

ต่อจากนั้นจึงเสด็จไปยังเมืองปาวานครเสด็จเข้าประทับอาศัยอยู่ที่อัมพวันสวน มะม่วงของจุนทกัมมารบุตรซึ่งอยู่ใกล้เมืองนั้น เสด็จจากปาวานครพร้อมกับทรงประชวรพระโรค "โลหิตปักขัณทิกาพาธ" (โรคท้องร่วงถึงพระโลหิต) เสด็จพระพุทธดำเนินข้ามแม่น้ำหิรัญญวดะ ในเมืองกุสินารา แล้วเสด็จเข้าไปยังสาลวโนทยานของมัลลกษัตริย์ใกล้เมืองกุสินารา

No comments:

ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอมักเป็นที่รังเกียจ