หลังจากศาสนาของพระปทุมุตระพุทธเจ้าล่วงไปได้ ๓๐,๐๐๐ กัป ล่วงถึงมัณฑกัปหนึ่ง มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ๒ องค์ พระพุทธเจ้าองค์แรกทรงพระนามว่า พระสุเมธะพุทธเจ้า
พระประวัติ พระสุเมธะพุทธเจ้า
พระสุเมธะพุทธเจ้า ทรงประสูติเป็นสุเมธะราชกุมาร ในราชวงศ์กษัตริย์แห่งสุทัสสนะนคร พระราชบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าสุทัตตะ และพระราชมารดาทรงพระนามว่าพระนางสุทัตตาเทวี สุเมธะราชกุมารทรงเกษมสำราญอยู่ ๙,๐๐๐ ปี ในปราสาท ๓ หลัง คือ สุจันทนะปราสาท สุกัญจนะปราสาท และสิริวัฒนะปราสาท ทรงมีพระมเหสีพระนามว่า สุมนาเทวี และทรงมีสนมนารีแวดล้อมอีก ๓๘,๐๐๐ นาง วันหนึ่ง สุเมธะราชกุมารทรงทอดพระเนตรเห็นเทวทูตทั้งสี่ คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และนักบวช พระองค์จึงมีพระทัยน้อมไปทางบรรพชา เมื่อพระนางสุมนาเทวีประสูติพระโอรส พระนามว่า ปุนัพพสุมิตตะกุมาร จึงได้เสด็จทรงคชยานออกบรรพชา โดยมีผู้ออกบรรพชาตาม ๑๐๐ โกฏิ สุเมธะราชกุมารทรงบำเพ็ญความเพียรอยู่ในพระราชอุทยานเป็นเวลา ๘ เดือน จนถึงวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ทรงรับข้าวมธุปายาสจากธิดานกุลเศรษฐี ณ นกุลนิคม และรับหญ้า ๘ กำจากสุวัฑฒอาชีวก ปูลาดใต้ต้นมหานีปะ (ต้นกะทุ่ม) เป็นโพธิบัลลังก์ และได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระสุเมธะพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา แก่สรณอนุชา และสัพพกามีอนุชา พร้อมทั้งพระภิกษุที่บรรพชาตามจำนวน ๑๐๐ โกฏิ ในราชอุทยานนั้นเอง
ธรรมาภิสมัยในพุทธกาลของพระสุเมธะพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ๓ วาระ คือ
วาระที่ ๑ แสดงปฐมเทศนา ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ
วาระที่ ๒ แสดงธรรมแก่ยักษ์กุมภกรรณ ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา ๙๐,๐๐๐ โกฏิ
วาระที่ ๓ แสดงธรรมที่ราชอุทยานสิรินันทะ อุปการีนคร ธรรมาภิสมัยบังเกิดแก่มนุษย์และเทวดา ๘๐,๐๐๐ โกฏิ
พระสุเมธะพุทธเจ้า ทรงประชุมสาวกสันนิบาต ๓ ครั้ง
ครั้งที่ ๑ ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก ๑๐๐ โกฏิ ณ กรุงสทัสสนะ
ครั้งที่ ๒ ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก ๙๐ โกฏิ ณ ภูเขาเทวกูฏ ในพิธีกรานกฐิน
ครั้งที่ ๓ ทรงแสดงปาฏิโมกข์แก่พระสงฆ์สาวก ๘๐ โกฏิ ที่ประชุมกันคราวพระสุเมธะพุทธเจ้าเสด็จจาริก
พระสุเมธะพุทธเจ้าทรงมีพระสาวกองค์สำคัญ
พระอัครสาวก คือ พระสรณะเถระ และพระสัพพกามะเถระ
พระอัครสาวิกา คือ พระรามาเถรี และพระสุรามาเถรี
พระอุปัฏฐาก คือ พระสาคระ
พระสุเมธะพุทธเจ้าทรงมีพระวรกายสูง ๘๘ ศอก มีพระรัศมีแผ่ไปได้โยชน์หนึ่งโดยรอบ เมื่อพระชนมายุได้ ๙๐,๐๐๐ ปี จึงปรินิพพาน
ความเกี่ยวข้องกับพระพุทธโคดม
พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคราวนั้นนิยติโพธิสัตว์ ได้เกิดเป็นมานพหนุ่ม นาวว่า อุตตรมานพ มีสมบัติมากมายมหาศาลและบริวารจำนาณมากมาย วันหนึ่งได้มีโอกาศพบพระพุทธองค์ ได้สดับพระธรรมเทศนา บังเกิดเลื่อมใสศรัทธา จึงบำเพ็ญทานอันยิ่งใหญ่แก่พระภิกษุสงฆ์อันมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และภายหลัง จึงสละเพศฆารวสวิสัย ออกบวชเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ครานั้น พระสุเมธสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสพุทธพยากรณ์ว่า "อุตตรภิกษุนี้ นานไปเบื้องหน้าในอนาคต จักได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ทรงนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดมพุทธเจ้า" หลังจากนั้นอุตตรภิกษุ ก็ได้เพียรสร้างบารมีต่อไป แล้วเวียนเกิดเวียนตายอยู่หลายชาติ นับได้หนึ่งพุทธันดร
สรุปสาระสำคัญ พระสุเมธพุทธเจ้า
ฉายา : ผู้หาบุคคลเปรียบมิได้
ความสูง : ๘๘ ศอก
รัศมี : แผ่ซ่านออกไปเหลือประมาณ
บำเพ็ญบารมี : บำเพ็ญบารมีครบถ้วน
วรรณะ : กษัตริย์
พุทธบิดา: พระเจ้าสุทัต
พุทธมารดา: พระนางสุทัตตาเทวี
พระนคร : สุทัสสนะ
ใช้ชีวิตฆราวาส : ๙๐๐๐ ปี
มเหสี สุมนา
บุตร ปุนัพพะ
ยานพาหานะที่ใช้ออกบวช : ทรงช้างออกบวช
ระยะเวลาการทำความเพียร : ครึ่งเดือน จึงได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ต้นไม้ตรัสรู้ : ที่โคนต้นนีปะ (ต้นกระทุ่ม)
อายุขัย :๙๐,๐๐๐ ปี จึงปรินิพพานที่สวนเมธาราม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี และ board.palungjit.com
No comments:
Post a Comment