2009-02-09
พระธาตุนารายณ์เจงเวง จ.สกลนคร
พระธาตุนารายณ์เจงเวง ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร อยู่ห่างจากตัวเมือง ประมาณ ๖ กิโลเมตร
พระธาตุองค์นี้เป็นพระธาตุเก่าแก่ สมัยเดียวกันกับพระธาตุเชิงชุม แต่ศิลปการก่อสร้างผิดไปคนละแบบ พระธาตุองค์นี้สร้างด้วยศิลาแลง แบบเดียวกับปราสาทหินพิมาย แต่มีขนาดเล็กกว่า เป็นปรางค์แบบขอม องค์พระธาตุแบ่งเป็นหลายส่วน คือ ส่วนที่เป็นฐาน ส่วนที่เป็นองค์หลังคาและส่วนยอด ส่วนที่เป็นฐานก่อด้วยศิลาแลงก้อนขนาดใหญ่ มีเอวคอดกิ่วเหมือนพานดอกไม้ สูง ๑๘ เมตร กว้างด้านละ ๑๕ เมตร
องค์เจดีย์เป็นเจดีย์ทรงสี่ เหลี่ยม ส่วนที่เป็นหลังคาและยอด ปัจจุบันหักพังหมดแล้ว ยังคงเหลือแต่องค์พระธาตุ ซึ่งมีประตูและซุ้มประตูด้านละประตู ด้านทิศเหนือและด้านทิศตะวันออก ยังพอเห็นความวิจิตรงดงามอยู่พอสมควร ด้านทิศตะวันออกต่อจากประตูออกมาก่อเป็นคูหา ยื่นมาข้างนอก ๓ เมตร มีบันได ๗ ขั้น ก่อนถึงองค์พระธาตุ วงกบประตูสลักอย่างดี มีร่องรอยบัวแบบประตูโบราณ ทำด้วยศิลาแท่งใหญ่ บนซุ้มประตูสลักลวดลายงดงาม ด้านทิศเหนือเป็นประตูเช่นเดียวกับด้านอื่น ๆ แต่ซากที่เหลืออยู่เด่นกว่า ประตูด้านอื่น ภายใต้ซุ้มข้างบน สลักรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ประดับด้วยกนกก้านขดอ่อนช้อยงดงาม ส่วนตรงมุมทั้งสี่ด้านขององค์พระธาตุ เป็นรูปนาคห้าเศียร ทำได้ดีราวกับมีชีวิตจริง
ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระเจ้าสุวรรณภิงคาระได้ทราบข่าวว่า พระมหากัสสปะเถระ พร้อมด้วยพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ จะนำพระอุรังคธาตุไปบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า ที่ประดิษฐานพระธาตุพนม และจะต้องเสด็จย่านสกลนคร ก็มีความศรัทธา ได้ประชุมอำมาตย์ผู้ใหญ่ สร้างพระเจดีย์ไว้สององค์ ไว้คอยรับเสด็จ เพื่อขอส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐานไว้ เจดีย์องค์หนึ่งสร้างไว้ที่พระราชอุทยานหลวง อยู่บนเนินสูงด้านทิศตะวันตก ห่างจากพระราชวังสามพันวา โดยให้พระนางเจงเวงเป็นเจ้าศรัทธาสร้าง อีกองค์หนึ่งให้อำมาตย์ผู้ใหญ่ฝ่ายชายเป็นผู้สร้าง
ทำนองสร้างแข่งขันกันให้สร้างเสร็จในคืนเดียว โดยถือเกณฑ์เมื่อดาวประกายพรึกโผล่ พ้นขอบฟ้าเป็นเวลาสิ้นสุดการก่อสร้าง เมื่อตกกลางคืนฝ่ายหญิงก็เอาโคมไปแขวนไว้บนไม้สูง ให้ฝ่ายชายเข้าใจว่าดาวประกายพรึกขึ้นแล้ว ก็เสียกำลังใจยังสร้างไม่เสร็จ ต้องยอมแพ้ไป ส่วนฝ่ายหญิงทำเสร็จเพราะทำได้เต็มเวลาและยังมีฝ่ายชายซี่งระส่ำระสายมาช่วย สร้างด้วยเป็นจำนวนมาก เมื่อพระมหากัสสปะ พร้อมทั้งพระอรหันต์ ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุผ่านมาถึงสกลนคร พระเจ้าสุวรรณภิงคาระได้ขอ แบ่งส่วนพระบรมสารีริกธาตุ แต่พระมหากัสสปะได้ชี้แจงว่า พระพุทธเจ้ามีพระพุทธประสงค์ให้นำไปประดิษฐานที่ภูกำพร้า แต่เพื่อมิให้เสียศรัทธา พระมหากัสสปะจึงให้พระอรหันต์องค์หนึ่งกลับไปนำ พระอังคารที่เหลือจากการถวายพระเพลิงที่เมืองกุสินารายณ์ มาประดิษฐานที่พระธาตุเจดีย์นารายณ์เจงเวงแทน ส่วนพระเจดีย์ที่สร้างไม่เสร็จ ก็ให้ชื่อว่า พระธาตุภูเพ็ก
ที่มา : หอมรดกไทย
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com
ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com
No comments:
Post a Comment