อุคคะ เกิดในตระกูลเศรษฐีในเมืองเวสาลี ชื่อเดิมของท่านไม่ปรากฏเป็นที่แน่นอน แต่เมื่อเจริญวัยขึ้น ร่างกายของท่านสูงสง่างาม เปรียบประดูจว่าเสาระเนียดที่นายช่างได้ตกแต่งดีแล้ว ผิวพรรณผ่องใสด้วยคุณสมบัติของรูปกายของท่านดังที่กล่าวมานั้น ได้ฟุ้งขจรไปทั่วทิศ ปริมณฑล ประชาชนทั้งหลายจึงพากันเรียกท่านว่า “อุคคเศรษฐี” บ้าง “อุคคคฤหบดี” บ้าง
ครั้นกาลต่อมาท่านได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบรมศาสดาและเพียงการเข้าเฝ้าในครั้งแรกเท่านั้น เท่านั้นก็ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน ต่อจากนั้นไม่นานนักท่านก็สามารถกระทำให้แจ้งซึ่งมรรคและผล ๓ ทำให้ท่านดำรงอยู่ในพระอนาคามี
* ผู้ให้ของที่ชอบใจย่อมได้ของที่ชอบใจ
เมื่ออายุสังขารของท่านย่างเข้าสู่วัยชรา ท่านได้ไปนั่งพักผ่อนอยู่ในที่สงบเงียบแล้วเกิดความคิดขึ้นมาว่า “สิ่งใดอันเป็นที่รักเป็นที่ชอบใจของเรา เราจักถวายสิ่งนั้นแด่พระทศพล ซึ่งเราเคยได้ฟังคำนี้ในที่เฉพาะพระพักตร์ พระบรมศาสดาว่า ผู้ถวายของที่ชอบใจ ย่อมได้ของที่ชอบใจ”
ครั้นความคิดดังนี้จบลงแล้วท่านอุคคเศรษฐีก็ยังคิดต่อไปอีกว่า “พระบรมศาสดาจะทรงทราบความคิดของเราหรือไม่หนอ ถ้าพระองค์ทรงทราบก็ของพระองค์จงเสด็จมายังประตูเรือนของเราด้วยเถิด”
แม้พระบรมศาสดาก็ทรงทราบวาระจิตของท่านอุคคเศรษฐี จึงเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์มาประทับปรากฏ ณ ประตูเรือนของท่านเศรษฐีนั้น ในขณะที่เศรษฐีมีความคิดจบลง อุคคเศรษฐี ได้เห็นพระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ปรากฏอยู่หน้าประตูเรือนของตนสมเจตนาที่ตนคิด ดวงจิตก็ฟูขึ้นด้วยปีติโสมนัส รีบขะมักเขม้นเดินไปยังที่ประทับของพระพุทธองค์ กราบลงด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้วรับบาตรของพระศาสดากราบทูล อาราธนาให้เสด็จเข้าไปประทับในเรือนของตนพระพุทธองค์ประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์ที่จัด ไว้เป็นอย่างดี ส่วนภิกษุสงฆ์ที่ติตตามก็นั่ง ณ อาสนะอันสมควรแก่ตน ๆ
อุคคคฤหบดี ได้อังคาสถวายภัตตาหารอันมีรสเลิศต่างๆ แด่พระภิกษุสงฆ์อันมีพระพุทธองค์เป็นประมุข ครั้นเสด็จภัตกิจแล้วได้กราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ได้ฟังมาในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ว่า บุคคลผู้ถวายของที่ชอบใจก็ย่อมได้รับของที่ชอบใจ”
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สิ่งใดเป็นที่ชอบใจของข้าพระองค์ สิ่งนั้นข้าพระองค์ได้ถวาย แด่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธองค์เป็นประมุขแล้ว พระเจ้าข้า”
พระบรมศาสดาได้สดับคำกราบทูลของท่านคฤหบดีโดยตลอดแล้ว จึงตรัสธรรมกถา อนุโมทนาทาน กระทำให้ท่านคฤหบดีมีจิตเบิกบานชื่นชมโสมนัสในกุศลทานของตนยิ่งขึ้น
อนึ่งพระพุทธองค์ทรงอาศัยเหตุนี้ ต่อมาเมื่อเสด็จประทับ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร ได้สถาปนาอุบาสกนามว่า “อุคคคฤหบดี” ผู้นั้น ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลาย ในฝ่ายผู้ให้ของเจริญจิต คือ ผู้ถวายโภชนะที่ชื่นชอบใจ
No comments:
Post a Comment