พิธีสวดแจง
ในงานฌาปนกิจศพ นิยมจัดให้มี เทศน์สังคีติคาถา หรือที่เรียกกันโดยสามัญว่า เทศน์แจง จะเทศน์ธรรมาสน์เดียว หรือสามธรรมาสน์โดยปุจฉา วิสัชนา ในการนี้นิยมให้มีพระสงฆ์สวดแจงเป็นทำนองการกสงฆ์ ในปฐมสังคายนาด้วย จำนวนพระสงฆ์สวดแจงนี้ ถ้าเต็มที่ก็นับรวมทั้งพระเทศน์ด้วยเต็ม ๕๐๐ รูป เท่าการสงฆ์ครั้งทำปฐมสังคายนา แต่ในการปฏิบัติจริงอาจลดส่วนพระสวดลงมาเหลือเพียง ๕๐ รูป หรือ ๒๕ รูป อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ก็มี ถือกันว่าเป็นบุญพิธีพิเศษ ซึ่งอุปถัมภ์ให้พระสงฆ์ได้ทำสังคายนาครั้งหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็เป็นอุบายประชุมสงฆ์เพื่อให้งานปลงศพนั้น ๆ คึกคักขึ้นเป็นพิเศษ มีระเบียบดังนี้
๑) การสวดแจงและเทศน์แจง จัดให้มีในงานฌาปนกิจก่อนหน้าเวลาฌาปนกิจ ในวัดหรือฌาปนสถาน พึงจัดธรรมาสน์ และอาสนสงฆ์ตามจำนวนที่นิมนต์
๒) เมื่อพระสงฆ์ผู้รับนิมนต์เข้าประจำที่เรียบร้อยแล้ว พอพระผู้เทศน์ขึ้นธรรมาสน์เทศน์ เริ่มตั้งแต่นโม เทศน์เป็นต้นไป ทุกรูปพึงประนมมือฟังเทศน์ด้วยความเคารพ เมื่อผู้เทศน์เผดียงให้สวด พึงสวดบทโดยลำดับ ดังนี้
# สวดบทนมัสการ นโม ฯลฯ
# สวดบาลีพระวินัยปิฎก ยนฺเตน ภควตา ฯลฯ
# สวดบาลี พระสุตตันตปิฎก เอวมฺเม สุตํ ฯลฯ
# สวดบาลี พระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ กุสลา ธมฺมา ฯลฯ
๓) เมื่อเทศน์จบแล้ว รอให้พระสงฆ์ที่สวดแจงบังสุกุลก่อน จบแล้วหากมีไทยธรรมอื่นอีกนอกจากผ้าทอดให้ถวายในระยะนี้ เสร็จแล้วพระผู้เทศน์ตั้งพัด ยถา ฯลฯ อนุโมทนาบนธรรมาสน์นั้น พระสงฆ์ทุกรูปพึงรับ สพฺพีติโย ฯลฯ อทาสิ เม ฯลฯ และ ภวตุ สพฺพมงฺคลํ ฯลฯ พร้อมกัน เป็นอันเสร็จพิธี
ที่มา : หอมรดกไทย
No comments:
Post a Comment