2008-12-28

เจ้าชายสิทธัตถะทรงสละราชโอรสและพระชายา

เจ้าชายสิทธัตถะทรงสละราชโอรสและพระชายา



เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความจริงค่อยปรากฎชัดแก่เจ้าชายสิทธัตถะ ธรรมชาติแห่งความคิดนึกตรึกตรอง และพระมหากรุณาของพระองค์ ไม่ยอมให้พระองค์เสวยความเพลิดเพลินในราชสำนักต่อไป พระองค์ไม่รู้จักความทุกข์เลย แต่รู้สึกสงสารมนุษยชาติผู้มีความทุกข์ ทรงเบื่อหน่ายต่อความสุขอย่างชาวโลก จึงได้เสด็จหนีจากวังในเวลาดึกเพื่อออกบรรพชา ด้วยทรงเห็นสาวสนมนางใน และพวกเล่นดนตรีทั้งหลาย นอนกลิ้งเกลือกอยู่ ไม่เป็นที่น่ายินดี ทรงเห็นสภาพเหล่านี้ ประกอบกับความสงสารในหมู่ประชา จึงทรงตัดสินพระทัย ทิ้งพระชายาและพระโอรสผู้บรรทมอยู่บนพระแท่น ในราตรีกาลนั้น

พระมหาบุรุษเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชา



เจ้าชายสิทธัตถะทรงม้ากัณฐกะ เสด็จออกจากกรุงกบิลพัสดุ์ เพื่อทรงบรรพชา ในราตรีกาลวันเพ็ญแห่งอาสาฬมาส ก่อนพุทธศก 51 ปี คือในปีที่พระองค์มีพระชนมายุ 29 พรรษา ภายหลังจากที่พระองค์ได้เสด็จประพาสอุทยาน และได้ทอดพระเนตรเห็นทูตทั้งสี่ คือคนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ แล้วเสด็จกลับพระราชวัง ได้ทรงสดับข่าวการประสูติพระโอรส ทรงเปล่งอุทานว่า ราหุโล ซึ่งแปลว่า ห่วง คล้อง แล้ว

ภาพนี้เขียนขึ้นจากความรู้ ความเข้าใจในพระพุทธประวัติ และปฐมสมโพธิกถา ตอนเสด็จออกมหาภิเนษกรม โดยได้ประมวลข้อความนั้น ๆ มาเขียน แสดงถึงการออกจากพระราชวังของเจ้าชายสิทธัตถะ โดยบุคคลาธิษฐานคือมีภาพบุคคลแสดง เจ้าชายสิทธัตถะประทับบนหลังม้ากัณฐกะ มีนายฉันนะยึดหางม้าตามไป ข้างหน้ามีเทวดาถือธงนำ ถัดมาเป็นท้าวสักกะเทวราชกำลังจูงม้า เบื้องหลังมีพรหมเชิญเครื่องบวช ท้าวจตุโลกบาลประคองเท้าม้าทั้งสี่ให้เคลื่อนที่ไป และในขณะที่จะพ้นพระราชวังออกไป มีพระยามารวัสวดีผู้ใจบาป แสดงอาการห้ามไว้มิให้ไป

ถ้าสันนิษฐานโดยธรรมจะได้ใจความจากภาพนี้ว่า การทำความดีนั้นบรรดาคนดีย่อมมาร่วมกันอนุโมทนาสาธุการและช่วยเหลือ ประดุจที่บรรดาเทวดาได้พากันมาแห่แหนไป ส่วนพระยามารแสดงถึงคนชั่วที่ไม่ต้องการ ให้ใครทำดีประการหนึ่ง อีกประการหนึ่ง คือความห่วงหาอาลัยของเจ้าชายสิทธัตถะ จากสภาวะเดิมของพระองค์

เจ้าชายสิทธัตถะปลงพระเกศา



เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกจากวัง พร้อมด้วยนายฉันนะและม้ากัณฐกะ เพื่อแสวงหาโมกขธรรม เมื่อเสด็จมาถึงฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา พระองค์ก็ทรงเปลื้องเครื่องทรงกษัตริย์ มอบให้นายฉันนะ และรับสั่งให้นำม้ากัณฐกะ กลับคืนสู่พระนคร เพื่อแจ้งข่าวแก่พระประยูรญาติและพระราชบิดา ก่อนจากไป นายฉันนะและม้ากัณฐกะ ได้แสดงความโศกเศร้าโสกาอาดูร ด้วยความจงรักภักดีและอาลัยรัก
เจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ทรงมั่นคงเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ในอุดมคติว่า สาธุ โข ปพฺพชฺชา ทรงอธิษฐานเพศบรรพชิตได้ประทับนั่งบนแผ่นศิลา บ่ายพระพักตร์สู่ฝั่งชล มีหมู่เทพและพรหมถวายความเคารพ และน้อมถวายสมณบริขาร คือ บาตรและกาสาวพัตร์ พระองค์ทรงตัดพระเมาฬีด้วยพระแสงขรรค์ แล้วทรงรับเครื่องสมณบริขารเหล่านั้น มาครองเพศเป็นบรรพชิต

หน้าแรก................................................หน้าที่แล้ว................................................หน้าถัดไป

No comments:

ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในเว็บไซด์ที่เป็นของ Andaman Amulet ไม่สงวนสิทธิ์ สามารถนำไปเผยแพร่ต่อได้
ข้อความและรูปภาพบางส่วน นำมาจากเว็บไซด์หลายแห่ง ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้

ติดต่อผู้จัดทำได้ที่ E-mail : skarnwigit@gmail.com


ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอมักเป็นที่รังเกียจ